เจ้าของร้านค้านี้ ไม่ได้เข้าสู่ระบบเป็นระยะเวลา 63 วัน แล้ว

Puritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective Bioflavonoids & Rose Hips Timed Release 500mg 250 Caplets

Puritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective Bioflavonoids & Rose Hips Timed Release 500mg 250 Caplets
Puritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective Bioflavonoids & Rose Hips Timed Release 500mg 250 CapletsPuritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective Bioflavonoids & Rose Hips Timed Release 500mg 250 CapletsPuritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective Bioflavonoids & Rose Hips Timed Release 500mg 250 Caplets
รหัสสินค้า 002433
หมวดหมู่ Puritan Pride Products
ราคาปกติ 1,450.00 บาท
ลดเหลือ 840.00 บาท
น้ำหนัก 125 กรัม
สภาพ สินค้าใหม่
ลงสินค้า 16 มี.ค. 2561
อัพเดทล่าสุด 26 มี.ค. 2563
คงเหลือ 0 250 Caplets
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

Puritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective  Bioflavonoid & Rose Hips Timed Release 250 Caplets

 วิตามินซี แบบ ไทม์ รีลิส 

 

รู้จักกับ วิตามิน ซี Vitamin C 

 วิตามินซี vitamin C หรือ กรดแอล-แอสคอร์บิก L-ascorbic acid หรือ แอล-แอสคอร์เบต  L-ascorbate เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายไม่สามารถที่  จะสร้างขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถ  ป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้

 วิตามินซี เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัย ศตวรรษที่ 18 มีการสังเกตว่าพวกทหารเรือที่มีการรอนแรมออกเดินเรือไปในทะเลเป็นเวลานานๆ ซึ่งมักจะขาดแคลนพวกผัก  สดผลไม้สด จะป่วยเป็นโรคลักปิด

 และเมื่อต่อมาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ามากขึ้น ในปี ค.ศ. 1982 ก็สามารถหาสารอาหารสำคัญ ที่เป็นต้นเหตุของโรคดังกล่าวได้ว่าสารที่พวกทหารเรือ  ขาดไปคือ “กรดแอสคอร์บิค (Ascorbic acid)” ซึ่งมันมีฤทธิ์สามารถช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิดได้ ในปัจจุบัน กรดแอสคอร์บิค ก็ถูกรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ  ของ “วิตามินซี” และมีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลถึง 2ครั้ง และมีอายุยืนยาวมากกว่า 90 ปีแม้จะป่วยเป็นโรค มะเร็ง มา  ยาวนานถึง 20 ปีก็ตามคือ Dr.Linus Pauling ชาวเมืองพอรต์แลนด์ ได้เคยพูดไว้ว่า เหตุที่เขาสามารถมีสุขภาพดีและสามารถชะลอการลุกลามของโรคมะเร็ง ในตัวได้นานกว่า 20 ปี ก็เนื่องจาก วิตามิน และ เกลือแร่ ที่เขารับประทานเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินซี ซึ่งหลังจากที่เขารับประทานขนาดสูงทุกวัน เขาก็ไม่เคยเป็นหวัดอีกเลย Dr.Linus Pauling เริ่มรับประทาน วิตามินซี ชนิดเม็ดตั้งแต่อายุ 40 ปี และเพิ่มขนาดสูงถึง 18,000 มิลลิกรัม เมื่อรู้ว่าตนเองเป็น มะเร็ง ตั้งแต่อายุได้ 64 ปี เขายืนยันว่ามันช่วยให้ มะเร็ง ในร่างกายสงบลงลักเปิด และสุขภาพไม่ค่อยดี มีอาการอ่อนเพลีย อยู่บ่อยๆ แต่ก็มีคนสังเกตเห็นว่าจะไม่พบอาการดังกล่าวในทหารเรือที่รับประทานมะนาว เป็นประจำ

วิตามินซีพบมากในผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว แคนตาลูป มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ พริกไทย เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมาย ปริมาณต่ำสุดที่ควรทานต่อวัน ก็ไม่ควรน้อยกว่า 60 – 100 มิลลิกรัม ไม่อย่างนั้นอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายที่ขาดวิตามินซี เช่น ผิวพรรณหมองคล้ำ อ่อนเพลีย มีเลือดออกตามไรฟัน และเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อโรคต่างๆ

การขาดวิตามิน ซี พบในพวกควบคุมอาหารมากๆ  มังสวิรัต สูบบุหรี่ โรคเกี่ยวกับการดูดซึม อาการที่พบคือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดข้อ เลือดออกตามไรฟัน แผลหายช้า และติดเชื้อง่าย วิตามิน ซี ในรูปแบบอาหารเสริม  มีทั้งรูปแบบเม็ดอัด แคปซูล ลูกอม ผสมน้ำหวาน-เครื่องดื่ม หรือผงละลายน้ำ และมีนำมาทำในรูปใช้ภายนอก เช่น ซีรั่ม ครีม โลชั่น เพราะเชื่อว่าผิวจะดูไม่เหนื่อยล้า หมองคล้ำ ขาวใส เปร่งปรั่ง ไม่ร่วงโรยก่อนวัย 

**อ้างอิงจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประโยชน์ของวิตามินซี

ราสามารถรับวิตามินซีจากสารอาหารที่เราทานเข้าไปได้ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ต่างๆ แต่บางคนไม่ชอบทานผักผลไม้จึงอาจจำเป็นต้องทานวิตามินเสริม วิตามินซี มีประโยชน์มากมากหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยปกป้องเซล เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ เส้นเอ็น และคอลลาเจน ก็มีผลมาจากปริมาณ วิตามินซี ในร่างกาย และ วิตามินซี ยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่ดี จึงสามารถป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และมันช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดจึงควรที่จะรับประทาน วิตามินซีเสริม ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน ฟลาโวนอย เป็นต้น

  • วิตามินซีเป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกันซึ่งจะทำให้ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
  • วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  • ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น และช่วยลบเลือนจุดด่างดำ
  • ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
  • วิตามินซี.ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
  • ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน
  • ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก
  • ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน หากรับประทาน วิตามินซี เป็นประจำทุกวัน มันจะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง โดย วิตามินซี จะไปช่วยรักษาเซลที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว
  • ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มความต้านทานต่อ โรคหัวใจ โดยการไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับ คลอเรสเตอรอล ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับ วิตามินอี โดยมันจะไปลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
  • ช่วยป้องกันอาการไมเกรน เมื่อรับประทานร่วมกับ pantothenic acid โดย วิตามินซี จะไปช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น
  • การรักษาด้วยการฉีดวิตามินซีปริมาณสูง ในผู้ป่วยมะเร็ง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ เนื่องจากวิตามินจะเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้
  • ช่วยเรื่องความจำ โดย วิตามินซี จะไปช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะบิลโลบา และโคเอนไซม์ คิวเท็น Co Q10
  • บรรเทาอาการแพ้ เป็นหวัด หอบหืด ไซนัส ทั้งนี้เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ว วิตามินซี มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคไซนัส นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า วิตามินซี ช่วยป้องกันและทำให้อาการหอบหืดดีขึ้น
  • ช่วยให้ผิวขาวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติเพราะวิตามินซี มีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี และช่วยส่งเสริมให้ร่างกายดูดซึมกลูต้าไธโอน ทั้งจากตามธรรมชาติ และแบบที่ทานเสริมเข้าไปได้ดีขึ้น

วิตามินซี สามารถเสริมสร้่างภูมิต้านทานโรคได้

 วิตามิน ซี มีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นวิตามิน ซี ยังช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้ในร่างกายหรือฮิสตามีน ซึ่งสารก่อภูมิแพ้นี้จะถูกกระตุ้นให้มีปริมาณสูงขึ้น เมื่อร่างกายได้รับสารหรือสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ถ้าร่างกายมีวิตามิน ซี เพียงพอ ก็จะสามารถบรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส จากคุณสมบัติการเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ

วิตามินซี สามารถช่วยเบาเทาและลดความรุนแรงของโรคไข้หวัด

วิตามินซี ช่วยบรรเทาความรุนแรงและระยะเวลาของการเป็นโรคหวัด หากเริ่มรับประทาน วิตามินซี ตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัด จะช่วยให้อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็ว ขึ้น มีการศึกษาเมื่อปี 1995 พบว่าหากรับประทาน วิตามินซี 1,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวันตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัด จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น 21% แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซี สามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้

วิตามินซี สามารถช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดี

สำหรับการดูแลสุขภาพเพื่อให้มีผิวพรรณที่สมบูรณ์ การรับประทานผักสดและผลไม้สด ทำให้ผิวสวย เหงือกและฟันแข็งแรง นั่นเพราะวิตามิน ซี ในผักและผลไม้ จะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารมากก็จะทำงานดีขึ้น ผิวจะดูมีสุขภาพดี และเรียบเนียน รวมทั้งวิตามิน ซี ยังช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ผิวแน่น และยืดหยุ่นดีขึ้น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร

วิตามินซี สามารถช่วยให้แผลหายเร็ว

วิตามินซี มีส่วนช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านการอักเสบ ทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น ในทางกลับกันการขาด วิตามินซี ก็สงผลให้แผลให้ได้ช้าลงเช่นกัน

วิตามินซี สามารถช่วยเสริมสร้างเหงือกให้มีสุขภาพดี

การรับประทาน วิตามินซี เป็นประจำทุกวัน มันจะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง โดย วิตามินซี จะไปช่วยรักษาเซลที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็ว

วิตามินซี สามารถช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ

การรับประทาน วิตามินซี เป็นประจำ สามารถไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับ คลอเรสเตอรอล ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับ วิตามินอี โดยมันจะไปลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด

วิตามินซี สามารถช่วยในการป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก 

วิตามินซี สามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตร้าไวโอเลต ที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก มีการศึกษาอันหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่รับประทานวิตามินซีมาอย่างน้อย 10 ปี พบว่ามีความเสี่ยงที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นมัวซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก ลดลงถึง 77%

วิตามินซี สามารถช่วยในการป้องกันอาการไมเกรน

เมื่อรับประทานร่วมกับ pantothenic acid โดย วิตามินซี จะไปช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น

วิตามินซี สามารถช่วยเสริมสร้างและป้องกันเรื่องความจำ

วิตามินซี จะไปช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะไบโลบ้า และโคเอนไซม์ คิวเท็น Co Q10

ขนาดที่รับประทาน

ในสภาวะปกติปริมาณที่แนะนำให้รับประทานตามมาตรฐาน อย. คือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมสุขภาพแนะนำให้กินวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ร่างกายคนเราสามารถดูดซึมวิตามิน ซี ได้ทีละน้อยๆเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกไป วิตามินที่ละลายในน้ำเช่น วิตามิน ซี และวิตามินกลุ่มบีทุกชนิด จะไม่สามารถอยู่ในร่างกายได้นาน ร่างกายจะขับออกทุกๆ 6 ชม. เวลากินวิตามิน ซี แบบเม็ดจึงควรจะกินแค่ครั้งละเม็ดก็พอ การกินวิตามิน ซี วันละครั้งในปริมาณเยอะๆจะได้ประโยชน์น้อยกว่า การกินวิตามิน ซี ครั้งละน้อยๆ แต่กินบ่อยๆ ในเวลาร่างกายปกติการกินวันวิตามิน ซี วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็นก็เพียงพอแล้ว วิตามินที่กินเข้าไปจะได้ไม่ถูกขับออกมาให้เสียของเปล่าๆ แต่ในช่วงที่เป็นหวัดควรกินวันละ 3,000 มิลลิกรัม แบ่งเป็น 3-6 เวลา ตลอดทั้งวัน จะลดความรุนแรงของหวัดได้มากที่สุด 85% ในเวลาปกติถ้าจะกินวิตามิน ซี วันละ 2 มื้อ ควรกินพร้อมอาหารเช้าและเย็น

หากเราได้รับ วิตามินซี น้อยกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับ ก็จะเกิดลักปิดลักเปิด ซึ่งจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นหากขาดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานและไม่ต้องกังวัลว่าจะได้รับมากเกินไป เนื่องจาก วิตามินซี สามารถละลายน้ำได้ดี หากร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะมีการขับออกมาได้ทางปัสสาวะ อีกทั้งยังไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับพิษที่เกิดจากการรับประทาน วิตามินซี แม้จะรับประทานในปริมาณที่สูงกว่า 6,000 - 18,000 มิลลิกรัม

ข้อแนะนำในการรับประทานเพื่อประโยชน์สูงสุด

  • เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรพิจารณารับประทานร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น วิตามินอี ฟลาโวนอย จะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ วิตามินซี
  • เพื่อสุขภาพทั่วไป ควรรับประทานอย่างน้อย 500 มิลลิกรัมต่อวัน
  • สำหรับการรับประทานเพื่อการบำบัดหรือการป้องกัน ควรรับประทาน 1,000 – 6,000 มิลลิกรัม ขึ้นกับสภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล และโรคแต่ละชนิด
  • การรับประทานไม่จำเป็นต้องรับประทานในครั้งเดียวต่อวัน สามารถแบ่งรับประทานเป็นหลายๆ ครั้งต่อวัน
  • การรับประทาน วิตามินซี ไม่จำเป็นต้องรับประทานพร้อมอาหาร หรือทานอาหารก่อนการรับประทาน

วิตามินซี ควรรับประทานช่วงไหน

เราควรทานวิตามิน ซี หลังอาหารเช้า เพราะช่วงเวลาที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีอยู่ช่วงเช้าของแต่ละวัน เวลาประมาณ 9-10 โมงเช้าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารต่างๆได้ดีที่สุดช่วงเวลานี้

ควรทานวิตามิน ซี หลังอาหารเพราะวิตามิน ซี ที่ร่างกายดึงไปใช้ได้นั้นจะต้องมีตัวนำพา เช่น อาหาร ผักใบเขียว ผลไม้ต่างๆที่ให้วิตามิน ซี สูง ซึ่งถ้าทานวิตามิน ซี ตอนท้องว่าง ร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม สุดท้ายน้ำที่เราดื่มเข้าไปก็จะไปละลายวิตามิน ซี และสุดท้ายวิตามิน ซี ก็จะโดนขับออกเป็นปัสสาวะ

ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน ซี ตอนท้องว่าง เพราะวิตามิน ซี มีคุณสมบัติเป็นกรดซึ่งคงไม่ค่อยดีแน่ถ้าเรากินตอนท้องว่าง และไม่ควรกินวิตามิน ซี ก่อนนอน ในบางการค้นค้าพบว่าวิตามิน ซี อาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งจะทำให้การนอนหลับยากขึ้น ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ข้อแนะนำในการรับประทาน: สำหรับคนปกติทั่วไป รับประทาน 1-4 เม็ด พร้อมอาหาร 

ข้อควรระวัง

  • การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium
  • การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการผิดพลาดของผลตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้
  • วิตามินซี ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี จึงอาจจะเกิดภาวะธาตุเหล็กสะสมตามข้อต่อต่างๆเนื่องจากได้รับธาตุเหล็กเกิน
  • การรับประทานวิตามินซีขนาดสูงมากกว่า 1000 mg อาจจะทำให้เกิดท้องเสีย และการรับประทานทานตอนท้องว่าง อาจจะเกิดการระคายเคือง ในกระเพาะและระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรด หรืออาจจะเกิดอาการท้องอืด เฟ้อ บางครั้งถึงขั้น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว
  • วิตามินซี จะที่เกินจำเป็นจะถูกขับทางปัสสาวะ จึงทำให้ปัสสาวะมีสภาพเป็นกรด ดังนั้น จึงเพิ่มโอกาสเกิดการตกตะกอนของผลึก ต่างๆ กลายเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้  ดังนั้น จึงแนะนำให้ทานวิตามินซี พร้อมดื่มน้ำสะอาดมากๆ

Puritan Vitamin C-Time 500 mg with Protective  Bioflavonoid & Rose Hips Timed Release 250 Caplets

 วิตามินซี

Pill SizeCoated for Easy Swallowing

 

Time ReleaseVegetarian

 

 

 

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินซีเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการทำงานหลากหลายสิ่งในร่างกาย  และเป็นสุดยอดวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดี ผลิตภัณฑ์ วิตามิน ซี C-Time สูตรพิเศษที่ช่วยปลดปล่อยสารวิตามินซี ได้ต่อเนื่องยาวนาน 6-8 ชั่วโมง สามารถรับประทานวันละ 1-2 ครั้งหลังอาหารเช้าและอาหารเย็น และยังมีส่วนประกอบของ ไบโอฟาวเวอร์นอยส์ Biofravornoids และ โรส-ฮิบ Rose Hips ที่ช่วยในการดูดซึมวิตามินในร่างกายได้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

ผลิตภัณฑ์นี้ทำจากผักผลไม้ธรรมชาติ เคลือบสารพิเศษที่ทำให้รับประทานได้ง่าย ไม่ปรุงแต่งสี ไม่มีสารให้ความหวาน หรือ สารกันบูด ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแป้ง ไม่มีนม ไม่มีแลคโตส ไม่มีถั่ว ไม่มีโปรตีน กลูเตน Gluten ไม่มีส่วนผสมจากข้าวสาลี ไม่มียีส ไม่มีปลา และ ไม่มีโซเดียม

Puritan's Pride

Vitamin C-500 mg with Rose Hips Time Release

500 mg / 250 Caplets / Item #002433

As a water-soluble nutrient, Vitamin C helps fight cell-damaging free radicals in the body.**

Free radicals can contribute to oxidative stress, which in turn may contribute to the premature aging of cells.**

Human beings cannot produce Vitamin C on our own, so we have to get it in our diets. Unfortunately, the average diet often lacks the key nutrients from fruits and vegetables.

Vitamin C also promotes immune system function.** C-Time with Rose Hips is specially formulated to provide a gradual release of Vitamin C over a prolonged period of time. Adults can take one tablet daily


Supplement Facts

 
Serving Size 1 Caplet
 
Amount Per Serving % Daily Value
 
Vitamin C 500 mg 833%
 
Citrus Bioflavonoids 25 mg *
  (orange)(Citrus spp.)(fruit)
 
Wild Rose Hips 16 mg *
 
*Daily Value not established.  
Directions: For adults, take one (1) to four (4) caplets daily, preferably with meals. 

Other Ingredients: Ascorbic Acid, Dicalcium Phosphate, Vegetable Cellulose, Citrus Bioflavonoids. Contains <2% of: Silica, Vegetable Magnesium Stearate, Wild Rose Hips. 

WARNING: If you are pregnant, nursing or taking any medications, consult your doctor before use. Discontinue use and consult your doctor if any adverse reactions occur. Keep out of reach of children. Store in a cool, dry place. Do not use if seal under cap is broken or missing.

No Artificial Color, Flavor or Sweetener, No Preservatives, No Sugar, No Starch, No Milk, No Lactose, No Soy, No Gluten, No Wheat, No Yeast, No Fish, Sodium Free.

About Puritan’s Pride

For more than 40 years, Puritan's Pride has helped families achieve a lifestyle of wellness. Our vitamins and supplements are made with care from the highest quality ingredients. They are tested or inspected as many as 15 times throughout the manufacturing process. That's why you can shop with confidence. We take pride in our products and helping customers feel their best.

วิธีการชำระเงิน

ข้อมูลที่ลูกค้าต้องเตรียมสำหรับแจ้งโอนเงิน

  • ชื่อ-นามสกุล ผู้โอน
  • ยอดงินที่โอน
  • วัน-เวลาที่โอน
  • ชื่อธนาคารและเลขที่บัญชีที่โอนไป
  • กรุณาเก็บหลักฐานสลิปการโอนเงิน หรือ ถ่ายรูปสลิป เก็บไว้เพื่อยืนยันความถูกต้อง

ลูกค้าสามารถแจ้งการโอนเงินได้หลายช่องทางดังนี้

1. แจ้งผ่านหน้าเวปไซด์ โดยกดที่ " แจ้งชำระเงิน" หรือที่ปุ่มเมนู "แจ้งชำระเงิน"

2. โทรแจ้งหรือส่ง SMS มาที่เบอร์ 083-092-7999 (หนึ่ง)

3. แจ้งผ่าน Line ID: iCarevitaminshop

4. แจ้งผ่าน inbox ใน Facebook :

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาฟอร์จูนทาวน์ สะสมทรัพย์
  • ค่าธรรมเนียม 3.4% + 11 THB
  • การชำระผ่าน PayPal คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งชำระเงิน เนื่องจากระบบจะจัดการให้คุณทันที ที่คุณชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

Join เป็นสมาชิกร้านค้า

ร้านiCare Vitamin Shop
ร้านiCare Vitamin Shop
www.icarevitaminshop.com/
Join เป็นสมาชิกร้าน
29
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

CONTACT US

083-092-7999 ( หนึ่ง )

TRACKCODE พัสดุจัดส่ง

  • ค้นหา
*ใส่ เบอร์มือถือ หรือ email ที่ใช้ในการสั่งซื้อ

MEMBER สมาชิกร้าน

STATISTICS

เปิดร้าน8 ส.ค. 2556
ร้านค้าอัพเดท4 ก.ค. 2568
พูดคุย-สอบถาม