รหัสสินค้า | 004904 |
หมวดหมู่ | Puritan Pride Products |
ราคาปกติ | |
ลดเหลือ | 750.00 บาท |
น้ำหนัก | 120 กรัม |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
ลงสินค้า | 12 ก.ย. 2556 |
อัพเดทล่าสุด | 24 มี.ค. 2561 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | 120 Softgels |
ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่อการมองเห็น Lutien ลูทีน และ Zeaxanthin ซีแซนทีน เป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงและปกป้องดวงตา
รู้จักกับ Lutien และ Zeaxanthin
Lutien ลูทีน มาจากคำภาษาละติน Luteus ลูเทียส แปลว่า สีเหลือง เพราะลูทีน จะพบมากในดอกไม้สีเหลือง เช่นดาวเรือง นอกจากนี้ยังพบในไข่แดง
Zeaxanthin ซีแซนทีน เป็นชื่อที่มาจาก Zea mays ซึ่งเป็นข้าวโพดสีเหลือง นอกจากนี้ยังพบได้ใน พริก ดอกดาวเรือง โกจิเบอร์รี่ เป็นต้น
ลูทีน และ ซีแซนทีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์สีเหลือง แต่มีความแตกต่างจาก แคโรทีนอยด์ ชนิดอื่นตรงที่จะไม่เปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ ลูทีนและซีแซนทีน มีในเนื้อเยื่อของร่างกายมนุษย์หลายจุดด้วยกัน ส่วนของร่างกายที่มีสาร ลูทีน และซีแซนทีน ได้แก่ในลูกตา คือ ที่เลนส์ตา และจอรับภาพของตา คือเรติน่า ตรงตำแหน่ง จุดรับภาพของลูกตา Macula ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในจอตาเรติน่าเพราะเป็นจุดที่ภาพและแสง ส่วนมากจะมาตกบริเวณนี้ เป็นส่วนที่จอตารับภาพได้ชัดที่สุดนั่นเอง จะทำหน้าที่ ดูดซับแสงสีน้ำเงินที่เข้ามาออกก่อนที่จะมีผลกระทบกับจอแก้วตา และช่วยปกป้องการทำลายของคลื่นสั้นที่มีต่อเยื่อบุผิวเรติน่า ในธรรมชาติแล้วแม้จะมี แคโรทีนอยด์ มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียง 20 ชนิดเท่านั้นที่พบในมนุษย์ และมีเพียง 2 ชนิดเท่านั้นที่พบในจุดรับภาพของลูกตา Macula
ลูทีน Lutein และ ซีแซนทีน Zeaxanthin ในจอตาทำหน้าที่
: ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
: ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระและกรองแสง สีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตา
นอกจากนี้ ลูทีน และซีแซนทีน ยังพบได้ใน ตับ ตับอ่อน ไต ต่อมหมวกไต และเต้านมแต่ก็เป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ ร่างกายของเราจะได้รับสารนี้ก็ต่อเมื่อรับประทานพืชผักที่มีสารนี้เท่านั้น แต่สาร ซีแซนทีน นอกจากจะได้จากอาหารส่วนหนึ่งแล้ว ร่างกายสามารถเปลี่ยนสาร ลูทีน ในตาไปเป็นสารซีแซนทินได้ ลูทีน และ ซีแซนทีน มีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยลดภาวะการขยายตัวของโรคมะเร็ง บางชนิดได้ด้วย
จากการศึกษา พบว่า ระดับลูทีน 2.0 – 6.9 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยป้องกันความเสื่อมของจุดด่างในดวงตาได้ สารลูทีนจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลูทีนพบได้ทั่วไปในผักใบเขียวและมีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา โมเลกุลของลูทีนพบในปริมาณสูงในจุดของดวงตาโดยเฉพาะพื้นที่ของเรตินาที่เกี่ยวกับการรับภาพ
ลูทีนเป็นแคโรทีนอยด์สีเหลืองซึ่งมีส่วนอย่างมากในการต่อต้านสารต้านอนุมูลอิสระลูทีนพบได้ทั่วไปในผักใบเขียวและมีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตาโมเลกุลของลูทีนพบในปริมาณสูงในจุดของดวงตาโดยเฉพาะพื้นที่จุดศูนย์กลางของเรตินาที่เกี่ยวกับการรับภาพ
เรามักจะพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีลูทินคู่มากับซีแซนทีน เพราะสารทั้งสองเป็นสารประเภทเดียวกันและมีความคล้ายคลึงกันมาก การศึกษาเชิงระบาดวิทยา พบหลักฐานว่าลูทีนและซีแซนทีนช่วยลดโรคจอประสาทตาเสื่อม ( Age –related Macular Degeneration : AMD )
โรคต้อกระจก ( Cataracts )
คือภาวะ ที่กระจกตา หรือเลนส์ตาขุ่นทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ตามปกติ ตาจะมัวมากน้อยขึ้นอยู่กับต้อกระจกขุ่นมากน้อยแค่ไหน ต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจเป็นพร้อมกันทั้งสองตา ต้อกระจกจะค่อย ๆ ขุ่นไปอย่างช้า ๆ ใช้เวลาเป็นปี ๆ ต้อกระจกไม่ใช่โรคมะเร็ง ต้อกระจกสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดลอกต้อกระจกขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนโดยจักษุแพทย์จะเป็น ผู้ให้คำแนะนำ และเลือกวิธีการผ่าตัดให้ได้ดีที่สุด
สาเหตุหลัก คือ การเปลี่ยนแปลงของส่วนประกอบของเลนส์ตา ทำให้เลนส์ขุ่น และนิวเคลียสแข็งขึ้น พบการเปลี่ยนแปลงนี้ในผู้สูงอายุ พบบ่อยตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป สาเหตุอื่น เช่น จากกรรมพันธุ์ จากอุบัติเหตุตา จากการติดเชื้อ จากการติดเชื้อในครรภ์มารดา ถ้าพบตั้งแต่เกิดก็เรียกว่า “ต้อกระจกแต่กำเนิด” เช่นในเด็กที่เกิดหลังจากมารดาติดหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ ในคนที่เป็นเบาหวานพบว่าเป็นต้อกระจกเร็วกว่าคนธรรมดาอย่างมาก ตาปกติเลนส์ตาจะใส และปล่อยให้แสงผ่านไปได้ แต่เมื่อเป็นต้อกระจก เลนส์ตาจะขุ่นแสงผ่านเข้าไม่ได้ เมื่อเริ่มเป็นต้อกระจก ผู้ป่วยจะรู้สึกตาข้างนั้นมัวคล้ายมองผ่านหมอก อาจมองเห็นภาพซ้อน ขับรถตอนกลางคืนลำบากขึ้น เมื่อต้อกระจกเป็นมากขึ้น จะสามารถสังเกตเห็นต้อสีขาวที่ม่านตาได้
การตรวจวินิจฉัย เมื่อมีอาการตามัวควรไปรับการตรวจจากจักษุแพทย์ ต้อกระจกจะทำให้สายตามัวไปทีละน้อย เมื่อ ต้อ สุกจะมองเห็นแต่มือไหว ๆ หรือเห็นเพียงแสงไฟเท่านั้น
โรคจุดรับภาพเสื่อม( Age-Related Macula Degenerationหรือ AMD )ลูทีน และ ซีแซนทีน กับโรคต้อกระจก
กลไก ของการที่ ลูทีน และ ซีแซนทีน ช่วยลดหรือป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้นเป็นเพราะ เป็นคุณภาพของสารเองที่จะลดกลไกการเกิดความเสื่อม ของโรคต้อกระจกโดยตรง นอกจากนี้ก็ยังพบว่าทั้ง ลูทีน และ ซีแซนทีน ต่างก็มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสสระ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในโรคทึ่เกิดจากการมี สารอนุมูลอิสสระ สูงได้ มีการค้นพบที่ชัดเจนว่า การได้รับแสงเป็นประจำได้ก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสสระ ในกระจกตาและจอตาได้จริง มีผลทำให้เกิดออกซิเดชั่นของโปรตีนและไขมันในเลนส์ตา ทำให้ไปในทิศทางของความเสื่อมของเลนส์ตาและก่อให้เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมสารลูทีน และ ซีแซนทีน จึงสามารถลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกและโรคของจอตาคือโรค โรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีกลไกการเกิดโรคจากความเสื่อมและอนุมูลอิสสระได้เช่นกัน ในเรื่องของต้อกระจก ได้มีการวิจัยวัดความขุ่นของเลนส์ตา ระดับของ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในกระแสเลือด ในกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ พบว่า การมีระดับ ของ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในกระแสเลือดสูงจะผกผันกับความขุ่นของเลนส์ตาในผู้สูงอายุ เป็นการวิจัยของจักษุแพทย์ และผู้วิจัยสรุปว่า ลูทีน และ ซีแซนทีน น่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง ยังมีการวิจัยว่าการรับประทาน ลูทีน ในปริมาณสูง เพิ่มความสามารถในการมองเห็น ของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยที่ดีมาก และทำการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปีทีเดียว การวิจัยที่ยิ่งใหญ่ถึงคุณประโยชน์ของ ลูทีน และ ซีแซนทีน ทำในอเมริกา สองงานวิจัย งานวิจัยแรกทำที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริม เป็น ลูทีน และ ซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของ โรคต้อกระจกถึง 19% และอีกงานวิจัยทำที่ University of Massachusetts ทำในสุภาพสตรี ถึง 50,461 คน เป็นการวิจัยทำนองเดียวกัน แต่ทำในผู้หญิงเท่านั้นพบว่า ลูทีน และ ซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของโรค ต้อกระจก ถึง 22% นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ทำที่ University of Wisconsin-Madison Medical School ในผู้สูงอายุ 43-84 ปี จำนวน1,354 คน พบว่า ลดอุบัติการณ์ของ ต้อกระจก ที่เกิดตรงกลางเลนส์ nuclear cataracts ได้ประมาณ 50% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก เนื่องจากมีงานวิจัยที่ชัดเจนมากมายถึงขนาดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่า ลูทีน และ ซีแซนทีน ลดอุบัติการณ์โรค ต้อกระจก ในผู้สูงอายุได้จริง
ลูทีน และ ซีแซนทีน กับโรคจุดรับจอภาพเสื่อม
นอกจาก ลูทีน และ ซีแซนทีน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ต้อกระจก แล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆการศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่า ถ้าปริมาณ Lutein & Zeaxanthin ในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสี่ยงมากขึ้นในเป็นโรคโรคจุดรับภาพเสื่อม และความเสี่ยงในการเป็นโรคโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มี ลูทีน และ ซีแซนทีน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้
ลูทีน กับ มะเร็งเต้านม
ในการวิจัย ของพยาบาล Nurse’s Health Study, Zhang และคณะ - พบว่ามีคนที่บริโภคอาหารที่มี ลูทีน และ ซีแซนทีน ปริมาณมากอาจลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านม ในสตรีช่วงหมดประจำเดือน ได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่า เปอร์เซนต์การลดอุบัติกาณ์จะไม่มากนัก แต่ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง ในทำนองที่สอดคล้องกัน ก็มีผู้วิจัยพบว่า ลูทีน ลดอุบัติการณ์มะเร็งเต้านมได้จริงในสตรีกลุ่มที่มีความเสี่ยงคือมีประวัติ ครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม พบว่า สาร ลูทีน มีคุณสมบัติยังยั้งการก่อมะเร็ง ได้ด้วยกลไกหลายชนิด เช่น มีผลต่อการเกิด mutagens 1-nitro pyrene and aflatoxin B1 และมีผลต่อยีนที่มีผลต่อ T-cell transformations
ลูทีน ซีแซนทีน กับโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรค หลอดเลือดหัวใจ สาเหตุหลักมักเกิดจากการที่เส้นเลือดมีการหนาตัวตีบแคบลง จากการมีตะกอน ทางการแพทย์เรียกว่า พลั๊ค Plaque ในผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบแคบทั่วไป เพียงแต่บริเวณที่สำคัญที่ต้องการเลือดมากที่สุดตลอดเวลาคืออวัยวะที่ไม่มี การหยุดพัก คือหัวใจ เป็นจุดที่เกิดปัญหาได้ก่อน ทำให้มีการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก อาจมีหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายจนหัวใจวาย หรือหัวใจหยุดเต้นและถึงแก่กรรมโดยฉับพลันได้ บางรายอาการทางหัวใจไม่มาก แต่เมื้อหัวใจเต้นผิดจังหวะนานๆ ก็อาจจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ มีอัมพาตแขนขาอ่อนแรง หรืออัมพาตครึ่งซีก ตามมาได้ สาเหตุที่สำคัญที่ก่อให้เกิดพลั๊คในผนังเส้นเลือดคือภาวะไขมันในเลือดสูงและ มีสารอนุมูลอิสสระ ในผนังเส้นเลือด ก่อให้เกิดการแทรกซึมของไขมันโคเลสเตอรอลลงไปสะสมในผนังเส้นเลือดทำให้เกิด พลั๊คและมีการตีบตันได้ งานวิจัยพบว่า ลูทีน สามารถลดกลไกการเกิดพลั๊คดังกล่าวได้พบว่าในผู้ที่บริโภคอาหารที่มีลูทีนสูงจะลดอัตราการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดตีบในสมองอย่างมีนัยสำคัญ
ลูทีนไม่ได้มีการกำหนดปริมาณในการรับประทานแต่งานวิจัยพบว่าต้องรับประทาน 6-10 มิลลิกรัมต่อวันจึงจะมีประสิทธิภาพในการดูแลดวงตา และมีความปลอดภัยหากรับประทานไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากรับประทานมากจะสะสมที่ตับและทำให้ตัวเหลืองที่เรียกว่า Carotenemia หากหยุดรับประทานสักระยะภาวะนี้ก็จะหายไป
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Lutien Gold สารสกัด ลูทีน และ ซีแซนทีน ผลิตขึ้นตามสูตรพิเศษเฉพาะ สำหรับบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น ทำจากวัตถุดิบบริสุทธิจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีสารสังเคราะห์ใดๆเจือปน สะอาด ปลอดภัย
แนะนำการรับประทาน:
คนปกติรับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
คำเตือน:
Serving Size 1 Softgel | |
Amount Per Serving | % Daily Value |
Lutigold™ Lutein | 20 mg ** |
(Contains Zeaxanthin, 800 mcg) | |
**Daily Value not established. |
No Artificial Color, Flavor or Sweetener, No Preservatives, No Sugar, No Starch, No Milk, No Lactose, No Gluten, No Wheat, No Yeast, No Fish, Sodium Free.
About Puritan’s Pride
For more than 40 years, Puritan's Pride has helped families achieve a lifestyle of wellness. Our vitamins and supplements are made with care from the highest quality ingredients. They are tested or inspected as many as 15 times throughout the manufacturing process. That's why you can shop with confidence. We take pride in our products and helping customers feel their best.
ข้อมูลที่ลูกค้าต้องเตรียมสำหรับแจ้งโอนเงิน
ลูกค้าสามารถแจ้งการโอนเงินได้หลายช่องทางดังนี้
1. แจ้งผ่านหน้าเวปไซด์ โดยกดที่ " แจ้งชำระเงิน" หรือที่ปุ่มเมนู "แจ้งชำระเงิน"
2. โทรแจ้งหรือส่ง SMS มาที่เบอร์ 083-092-7999 (หนึ่ง)
3. แจ้งผ่าน Line ID: iCarevitaminshop
4. แจ้งผ่าน inbox ใน Facebook :
เปิดร้าน | 8 ส.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ค. 2568 |